Categories |
55555 |
New Update |
New Fashion |
เท็ดดี้กิมจิ "แบร์จังกึม"
อันยองฮาเซโย....
เสียงใสบวกกับหน้าใส ๆ ของสาวเกาหลีกล่าวทักทายต้อนรับอยู่ตรงทางเข้าพิพิธภัณฑ์เท็ดดี้แบร์ (Teddy Bear Museum) ทำให้อาการเหนื่อยหอบของคณะคลื่นแมกซ์ 103.0 แมกซิมั่มฮิตส์ ที่เดินขึ้นเขานัมซานมาที่หอคอยกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์เท็ดดี้แบร์เมื่อครู่หายเป็นปลิดทิ้ง
พิพิธภัณฑ์เท็ดดี้แบร์ ประเทศเกาหลีใต้ ที่เป็นจุดใหญ่ ๆ มีอยู่ 4 แห่ง คือที่เกาะเจจู 2 แห่ง ที่เทือกเขาซอรัก จังหวัดคังวอน และที่โซล ทาวเวอร์ ไม่ว่าน้องหนูจะไปที่ไหน จะได้สัมผัสกับเจ้าหมีน้อยเท็ดดี้แบร์อย่างใกล้ชิดเหมือนกัน
ก่อนเข้าไปด้านในพิพิธภัณฑ์มารู้จักประวัติเท็ดดี้แบร์กันก่อน
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับต้นกำเนิดของเท็ดดี้แบร์จาก 2 แหล่งคือ เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา ในเวลาที่ใกล้เคียงกันคือประมาณปี ค.ศ.1902
เรื่องเล่าของเยอรมนี
ที่เยอรมนี ปี ค.ศ.1902 ริชาร์ด สไตฟ์ นักออกแบบของเล่นในโรงงานของครอบครัวเขาเอง เดินทางไปดูการแสดงละครสัตว์ที่สหรัฐอเมริกา
แล้วเขาก็ได้ไอเดีย เอาหมีในคณะละครสัตว์มาเป็นแบบผลิตตุ๊กตาหมี ตุ๊กตาหมีที่เขาออกแบบจะมีข้อต่อตามจุดต่างๆ ได้แก่ คอ แขน และขา ทำให้เปลี่ยนอิริยาบถได้ ต่างจากตุ๊กตาหมีที่มีอยู่ในขณะนั้น
ริชาร์ด สไตฟ์ นำตุ๊กตาหมีที่เขาออกแบบไปแสดงในงานแสดงสินค้า แต่เขากลับต้องผิดหวังที่ไม่มีคนสนใจตุ๊กตาหมีของเขาเลย
จนวันสุดท้าย ขณะที่เขากำลังเก็บของ ชาวอเมริกันคนหนึ่งเดินเข้ามาดูตุ๊กตาหมีของเขาและสั่งซื้อจำนวนมาก
ทำให้ตุ๊กตาหมีของเขาแพร่หลายไปยังประเทศอื่นๆ
เรื่องเล่าอเมริกา
ในปี ค.ศ.1902 ที่อเมริกา ประธานาธิบดี ธีโอดอร์ รูสเวลต์ เดินทางไปที่มิสซิสซิปปี้เพื่อเจรจายุติกรณีพิพาทเกี่ยวกับอาณาเขต ในวันหนึ่งท่านได้ออกไปล่าสัตว์ หลายชั่วโมงผ่านไปท่านก็ยังล่าสัตว์ไม่ได้สักตัว
องครักษ์ของท่านที่ตามไปด้วยพบลูกหมีตัวหนึ่งพลัดหลงมา จึงจับลูกหมีตัวนั้นผูกต้นไม้ไว้ และตามประธานาธิบดีมาดูเพื่อมอบให้ แต่ประธานาธิบดีกลับปล่อยลูกหมีให้เป็นอิสระ
ข่าวของประธานาธิบดีปล่อยลูกหมีดังไปทั่ว คลิฟฟอร์ด เบอร์รี่แมน นักเขียนการ์ตูนของหนังสือพิมพ์การเมือง ยังนำไปเขียนลงในหนังสือพิมพ์ ซึ่งจุดประกายให้ มอร์ริส มิชทอม ออกแบบและผลิตตุ๊กตาหมีนำมาวางจำหน่ายที่ร้านของเขาเอง
ปรากฏว่าตุ๊กตาขายดี ตั้งโชว์ที่หน้าร้านพร้อมภาพการ์ตูนที่เขียนโดย คลิฟฟอร์ด เบอร์รี่แมน และป้ายข้อความว่า Teddy"s Bear ตุ๊กตาหมีขายดี
จากนั้นเพียงปีเดียว มอร์ริส มิชทอม ได้ปิดร้านและจัดตั้งบริษัท Ideal Novelty and Toy ขึ้น เพื่อรองรับธุรกิจนี้ ซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งที่ติดอันดับยักษ์ใหญ่ทางด้านของเล่นของโลกในปัจจุบัน
รู้จักประวัติกันแล้วก็ถึงเวลาเข้าไปดูด้านในกันละทีนี้
จากทางเดินด้านนอกเข้าไป แสงที่สว่างเริ่มสลัวลงเรื่อย ๆ เพื่อให้เห็นบรรยากาศการตกแต่งพิพิธภัณฑ์ได้ชัดเจน มีการนำเท็ดดี้แบร์ตัวน้อยมาจัดโชว์เป็นโซน บอกเล่าความเป็นมาของคนเกาหลีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผ่านเจ้าหมีตัวน้อย อาทิ เท็ดดี้แบร์สวมชุดกษัตริย์ราชวงศ์โชซอน หรือจะเป็นเจ้าหมีร่วมงานพิธีกรรมต่าง ๆ งานเลี้ยงงานแต่ง วิถีชีวิตของชาวเกาหลี และหลากหลายอิริยาบถที่ถ่ายทอดผ่านตุ๊กตาเท็ดดี้แบร์
รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในกรุงโซล เจ้าหมีน้อยก็เหมือนเป็นไกด์นำเที่ยวไปในตัว ทั้งคลองชองเกชอน อินซาดง เมียงดง หรือทง แดมุน
ที่โดนใจวัยโจ๋หน่อยเห็นจะเป็นโซนเจ้าหมีน้อยบี-บอย อ๊ะ ! ต้องเรียก "บี-แบร์" สินะ
ส่วนแฟน ๆ แดจังกึม คงจะถูกใจโซนในวัง ที่มีเรื่องราวของอาหาร และมีหมีน้อยที่ใส่ชุดซังกุงยืนดุนางกำนัลที่ทำอาหารหก ขณะที่หมีนางกำนัลอีกตัวกำลังกวาดพื้น ย้อนให้นึกถึง ซีรีส์เกาหลีแดจังกึมที่ฟีเวอร์ในเมืองไทยช่วงก่อนหน้านี้
เอาเป็นว่าใครผ่านมาโซนนี้เป็นต้องหยุดดูแล้วอมยิ้มทุกรายในความน่ารักของ "แบร์จังกึม"
งานนี้ต้องขอบคุณไกด์ "เก่ง วีรพงษ์" แห่ง เคทีซีซี ที่อธิบายในแต่ละโซน จนได้รับรู้ประวัติ วัฒนธรรม การดำเนินชีวิตของชาวเกาหลี ผ่านเจ้าหมีเท็ดดี้ได้อย่างละเอียดยิบ
ระหว่างทางเดินแต่ละโซนจะมีเจ้าหมีตัวเบิ้มยืนเป็นคู่ ใครอดใจในความน่ารักไว้ไม่ไหวจะเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงด้วยความมันเขี้ยวก็ไม่ว่ากัน แล้วตบท้ายด้วยถ่ายรูปคู่
ที่เป็นดาราหน้ากล้องมากที่สุดก็หมีคู่รักที่แต่งตัวเป็น "เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา" ซีรีส์ฮิตในเมืองไทย (อีกแล้ว)
กำลังเพลินใกล้ถึงทางออกแล้ว แต่ก็ยังส่งท้ายด้วยประวัติเจ้าหมีบนผนังทางเดินออกทั้งสองด้าน
เป็นแอนิเมชั่นน่ารัก ๆ ปิดท้าย เรียกรอยยิ้มจากเทดดี้แบร์แฟนคลับ ตั้งแต่ทางเข้าจนถึงทางออก...
HTC Golfer |
HTC |
|
|
||
Ingram Micro |
BMW Society |
|
SVOA |
ชุณหสาส์น |
|
Sexy Group |
MicroSoft |
|
Wall |
Enjoy Honda |
|
Shell V-Power |
MicroSoft Live@Edu |
|
Wall |
MSD |
|
Jubilee Diamond |
MCOT |
|
AMS CMU |
AMS CMU |
|
Honda Racer |
DBF Beiersdorf |
|
SCB - New York Life |
SCB Life |
|
Epson |
Epson |
ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์ ราคาแพงที่สุดในโลก
บทความโดย FourBears
บริษัทชไตฟ์(Steiff) ผู้ผลิต ตุ๊กตาหมี ของเยอรมัน ซึ่งรับเป็นผู้ผลิตตุ๊กตาหมีราคาแพงเพื่อการสะสมมาแล้วจำนวนมาก
และเป็นผู้ที่เคยผลิต ตุ๊กตาหมี ที่แพงที่สุดมาแล้ว ในการแถลงครั้งใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้ เปิดเผยว่าได้ผลิต ตุ๊กตาหมีที่แพงที่สุดในโลก
ผลิตด้วยทองคำออกมาอีกแล้ว คราวนี้เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 125 ปี ของการก่อตั้งบริษัท ซึ่งตุ๊กตาตัวแรกที่ชไตฟ์ผลิตนั้นไม่ใช่ตุ๊กตาหมี
แต่เป็นตุ๊กตาช้างตัวเล็ก ๆ สำหรับปักเข็ม ของช่างเย็บ ที่มาจากฝีมือการเย็บของหญิงที่ป่วยเป็นอัมพาตนั่งบนรถเข็นตลอดเวลาที่ชื่อ มาร์กาเร็ต ชไตฟ์
ตุ๊กตาหมีราคาแพงตัวนี้ ปากและจมูกของมันทำด้วยทองคำเส้น ส่วนขนเป็นด้ายทอด้วยทองคำ
ดวงตา็ทำด้วยหินแซฟไฟร์เป็นนัยน์ตาดำ ล้อมรอบด้วยเพชรเป็นนัยน์ตาขาว
หากใครอยากจะซื้อตุ๊กตาหมีราคาแพงที่สุดในโลกตัวนี้ให้เป็นของขวัญสำหรับลูกสาวที่แสนรักละก้อ
ต้องลุ้นกันมากหน่อย เพราะชไตฟ์ผลิตเพียง 125 ตัวเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงแต่ราคาแพง แต่ยังหาซื้อได้ยากอีกด้วย
ตุ๊กตาหมีตัวนี้ราคาตามป้ายเป็นเงิน 62,446 ยูโรหรือประมาณ 84,000 ดอลล่าร์ คิดเป็นเงินไทยได้ประมาณ 3 ล้านกว่าบาท เท่านั้นเอง !!!
แต่ช้าก่อน ถ้าคุณอยากสะสมตุ๊กตาหมีในโอกาสครบรอบ 125 ปีของชไตฟ์ คุณไม่จำเป็นต้องควักเงินสามล้านบาทมาซื้อตุ๊กตาหมีราคาแพงตัวนี้ก็ได้ เพราะชไตฟ์ผลิตตุ๊กตาหมีรุ่นอื่นๆ ที่ราคาถูกกว่านี้มาก ๆ ออกมาร่วมฉลองครบรอบ 125 ปีของชไตฟ์หลายแบบหลายขนาดด้วยกัน.
ของพรีเมี่ยม ตุ๊กตาหมี การตลาดบนรอยยิ้ม
การใช้ ตุ๊กตาหมี เป็น ของพรีเมี่ยม เริ่มเป็นที่นิยมใช้เป็นสื่อในการ ส่งเสริมการตลาด ในวงการการตลาดของไทยอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ อาจจะเนื่องมาจากเราได้รับอิทธิพลวัฒนธรรมจากตะวันตกมากขึ้น คนไทยรู้จัก การสะสมตุ๊กตาหมี กันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อประเภทภาพยนตร์และโทรทัศน์ ล่าสุดคือ ภาพยนตร์เกาเหลีเรื่อง เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา (Princess Hours) ก็ทำให้คนไทยรู้จัก และนิยมชมชอบตุ๊กตาหมีมากขึ้น
นักการตลาดที่ใช้ ตุ๊กตาหมี เป็น ของพรีเมี่ยม ได้พบปรากฏการณ์ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อพบว่าผู้รับ ของ พรีเมี่ยม ชิ้นนี้มีความพึงพอใจเป็นอย่างสูง ผู้รับจะมีความชื่นชอบ, ตื่นเต้น, อยากได้ มากกว่า ของพรีเมี่ยม ประเภทอื่น ๆ ที่เคยได้รับ กล่าวได้ว่า นี่เป็นปรากฏการณ์ของกิจกรรมตลาดที่สร้าง รอยยิ้ม ให้กับลูกค้าได้น่าอัศจรรย์ แน่นอนที่สุด ย่อมนำความพึงพอใจไปสู่ตัวสินค้าที่ลูกค้าจะสามารถจดจำได้อย่างแม่นยำ
จากประสบการณ์ของเรา ที่เราผลิตตุ๊กตาหมีเป็น ของพรีเมี่ยม ให้ลูกค้าพบว่า
- ลูกค้าที่เป็นคนวัยหนุ่มสาว ถึงวัยกลางคน จะเป็นกลุ่มที่มีความชื่นชอบตุ๊กตาหมีเป็น ของพรีเมี่ยม มากที่สุด
- ของพรีเมี่ยม ที่เป็นตุ๊กตาหมี ไม่ได้จำกัดว่าผู้รับจะต้องเป็นลูกค้าเพศหญิงเท่านั้น แม้แต่ผู้ชายก็ชื่นชอบ ของ พรีเมี่ยม ชิ้นนี้เช่นเดียวกัน เมื่อเร็ว ๆ นี้ ดาราภาพยนตร์ชายคนหนึ่งของไทยก็ให้สัมภาษณ์ว่า ชอบสะสมตุ๊กตาหมี เป็นงานอดิเรก
- อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีความพึงพอใจในการรับตุ๊กตาหมีเป็น ของพรีเมี่ยม มากที่สุด ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มของผู้มีการศึกษา หรืออยู่ในลูกค้ากลุ่ม B ขึ้นไป
- ตุ๊กตาหมี ยังจัดอยู่ในกลุ่มของ สินค้า พรีเมี่ยม ที่ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ ของพรีเมี่ยม ที่ทำจาก พลาสติก เซรามิก หรือ กระดาษ เนื่องจากเป็นงานฝีมือ ดังนั้นจึงเหมาะสมกับการใช้เป็นสื่อการตลาดของสินค้าที่มีมูลค่าสูง หรือ ใช้ในการจัด event หรือ แจกให้กับลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่มีการคัดเลือก ในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เป็นต้น